วิธีเลือกเครื่องฟอกอากาศ PM 2.5 ให้เหมาะกับผู้เป็นภูมิแพ้
เครื่องฟอกอากาศ PM 2.5 สำหรับผู้เป็นโรคภูมิแพ้ วิธีเลือกฟิลเตอร์ HEPA ระบบกรองฝุ่น ละอองเกสร ไรฝุ่น และเชื้อโรค เพื่ออากาศสะอาด ลดอาการแพ้อย่างมีประสิทธิภาพ
โรคภูมิแพ้เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน โดยเฉพาะผู้ที่แพ้ฝุ่นละออง ไรฝุ่น เกสรดอกไม้ และเชื้อโรคในอากาศ การใช้เครื่องฟอกอากาศเป็นทางออกสำคัญที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในบ้านให้สะอาดขึ้น และลดอาการแพ้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเครื่องฟอกอากาศ PM2.5 ที่สามารถกำจัดฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มองไม่เห็นได้ดี ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจวิธีเลือกเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ พร้อมแนะนำเทคนิคการใช้งานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ทำไมเครื่องฟอกอากาศจึงจำเป็นสำหรับผู้เป็นโรคภูมิแพ้
มลพิษทางอากาศและสารก่อภูมิแพ้สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ เช่น คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอจาม และหายใจติดขัด การใช้เครื่องฟอกอากาศ PM2.5 ที่มีระบบกรองประสิทธิภาพสูง สามารถช่วยลดปริมาณสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ ทำให้สภาพแวดล้อมในบ้านสะอาดขึ้นและลดโอกาสเกิดอาการแพ้
วิธีเลือกเครื่องฟอกอากาศ PM 2.5 สำหรับผู้เป็นโรคภูมิแพ้
- เลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรอง HEPA
- แผ่นกรอง HEPA (High-Efficiency Particulate Air) เป็นตัวเลือกสำคัญที่ช่วยดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอนได้ถึง 99.97%
- เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ และไรฝุ่น
- ตรวจสอบประสิทธิภาพของแผ่นกรองคาร์บอน
- แผ่นกรองคาร์บอนมีคุณสมบัติช่วยดูดซับกลิ่นและสารเคมีในอากาศ เช่น ควันบุหรี่ กลิ่นสารระเหย และมลพิษทางอากาศที่อาจกระตุ้นอาการแพ้
- เหมาะสำหรับบ้านที่อยู่ในเขตเมืองที่มีมลพิษสูง
- เลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีค่า CADR สูง
- ค่า CADR (Clean Air Delivery Rate) บ่งบอกถึงความสามารถในการกรองอากาศ ยิ่งค่าสูง ยิ่งสามารถฟอกอากาศได้เร็วขึ้น
- สำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้ ควรเลือกเครื่องที่มีค่า CADR สูงกว่าขนาดห้อง เพื่อให้มีการหมุนเวียนอากาศที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
- ตรวจสอบระบบฆ่าเชื้อโรคในอากาศ
- เครื่องฟอกอากาศบางรุ่นมีเทคโนโลยีเสริม เช่น แสง UV-C หรือ PlasmaWave ที่ช่วยกำจัดเชื้อโรค ไวรัส และแบคทีเรียในอากาศ
- เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้ที่ต้องการลดความเสี่ยงจากเชื้อโรคในอากาศ
- เลือกรุ่นที่มีโหมดกรองฝุ่น PM 2.5
- ฝุ่น PM 2.5 เป็นหนึ่งในตัวกระตุ้นอาการภูมิแพ้ที่สำคัญ การเลือกเครื่องฟอกอากาศ PM2.5 ที่สามารถกำจัดฝุ่นขนาดเล็กได้ จะช่วยลดอาการแพ้และทำให้อากาศในบ้านสะอาดขึ้น
เทคนิคเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเครื่องฟอกอากาศ PM 2.5
- วางเครื่องฟอกอากาศในตำแหน่งที่เหมาะสม
- ตั้งไว้ใกล้บริเวณที่มีฝุ่นสะสมมาก เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือใกล้หน้าต่างที่มีมลพิษจากภายนอก
- เปิดเครื่องฟอกอากาศตลอดเวลา
- การเปิดเครื่องฟอกอากาศทั้งวันจะช่วยให้การกรองอากาศมีความต่อเนื่อง และลดโอกาสที่ฝุ่นจะสะสมในบ้าน
- เปลี่ยนไส้กรองตามระยะเวลาที่กำหนด
- ไส้กรอง HEPA และคาร์บอนมีอายุการใช้งานจำกัด ควรเปลี่ยนไส้กรองตามคำแนะนำของผู้ผลิตเพื่อให้เครื่องฟอกอากาศทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
- ทำความสะอาดเครื่องฟอกอากาศเป็นประจำ
- เช็ดตัวเครื่องและช่องระบายอากาศเป็นประจำเพื่อป้องกันฝุ่นสะสมที่อาจลดประสิทธิภาพการทำงานของเครื่อง
- ใช้ร่วมกับมาตรการลดฝุ่นในบ้าน
- หมั่นทำความสะอาดบ้านเป็นประจำด้วยเครื่องดูดฝุ่นที่มีแผ่นกรอง HEPA
- ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิดในวันที่ค่าฝุ่น PM 2.5 สูง
- ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดพื้นและเฟอร์นิเจอร์เพื่อลดการสะสมของฝุ่น
เครื่องฟอกอากาศ PM2.5 เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยลดอาการแพ้สำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้ การเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรอง HEPA แผ่นกรองคาร์บอน และระบบกรองอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง จะช่วยให้คุณได้รับอากาศที่สะอาดขึ้นและปลอดภัยจากฝุ่นละอองและสารก่อภูมิแพ้ นอกจากนี้ การดูแลเครื่องฟอกอากาศให้สะอาดอยู่เสมอ และการใช้ร่วมกับมาตรการลดฝุ่นในบ้าน จะช่วยเสริมประสิทธิภาพให้บ้านของคุณเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยและสุขภาพดีสำหรับทุกคนในครอบครัว
MASTERKOOL (มาสเตอร์คูล) คือผู้เชี่ยวชาญในการแก้ไขปัญหาอากาศร้อนและปรับปรุงคุณภาพอากาศแบบครบวงจร ที่พร้อมนำเสนอโซลูชันเกี่ยวกับระบบบำบัดกลิ่น ระบบทำความเย็น และระบบระบายอากาศที่หลากหลาย อาทิ พัดลมอุตสาหกรรม พัดลมตั้งพื้น พัดลมโรงงาน พัดลมฟาร์ม พัดลมแขวนผนังที่มีประสิทธิภาพ ระบบบำบัดอากาศ เครื่องฟอกอากาศ พัดลมไอเย็น เครื่องทำน้ำเย็น ตู้กดน้ำเย็น รวมถึงดูแลและให้บริการระบบอีแวป (Evaporative Cooling System) ระบบทำความเย็นในโรงงานอีกด้วย เพื่อการช่วยตอบโจทย์กับทุกความต้องการในการใช้งานอย่างครอบคลุม
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าและบริการของ Masterkool ได้ที่
Tel : 02-953-8800, 092-260-5140
Email : info@masterkool.co.th