ดูแลระบบอีแวป ให้คุ้มค่า และใช้งานได้ยาวนาน
การ ดูแลระบบอีแวป ไม่เพียงช่วยให้เครื่องใช้งานได้ยาวนาน แต่ยังช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้น และลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวด้วย

ระบบทำความเย็นแบบ Evaporative Cooling หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ระบบอีแวป” (Evap) กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น เนื่องจากมีความสามารถในการลดอุณหภูมิได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การใช้งานระบบอีแวปมีความคุ้มค่า และใช้งานได้ยาวนาน จำเป็นต้องมีการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง มาดูกันว่ามีวิธีการดูแลระบบอีแวปอย่างไรบ้าง
วิธีการ ดูแลระบบอีแวป เบื้องต้น
1. การทำความสะอาดแผ่นทำความเย็น (Cooling Pad)
แผ่นทำความเย็นเป็นส่วนสำคัญของระบบอีแวป ที่จะช่วยในการระเหยน้ำ และทำให้อากาศเย็นลง เมื่อใช้งานไปนานๆ อาจเกิดการสะสมของฝุ่นละออง และตะกรัน ซึ่งจะลดประสิทธิภาพการทำงาน และอาจทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์
- ทำความสะอาดแผ่นทำความเย็นอย่างน้อย 1 – 2 ครั้งต่อเดือน โดยการถอดออกแล้วใช้สายยางฉีดล้างสิ่งสกปรกออก
- หากมีคราบตะกรัน ควรแช่แผ่นทำความเย็นในน้ำส้มสายชู หรือ น้ำยาล้างตะกรันที่ปลอดภัย
- หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่รุนแรง เพราะอาจทำลายโครงสร้างของแผ่นทำความเย็น
2. การดูแลถังน้ำ และระบบน้ำ
น้ำเป็นอีกส่วนที่สำคัญของระบบอีแวป ดังนั้นการรักษาความสะอาดของน้ำ และถังเก็บน้ำจึงจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันการสะสมของแบคทีเรีย และตะไคร่น้ำ
- เปลี่ยนน้ำในถังเก็บน้ำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพื่อลดการสะสมของสิ่งสกปรก
- ทำความสะอาดถังน้ำเป็นประจำ เพื่อป้องกันคราบสกปรก และเชื้อรา
- หากพบว่ามีตะไคร่น้ำ ควรใช้น้ำยาฆ่าเชื้อที่ปลอดภัยกับระบบอีแวป
3. ตรวจสอบ และดูแลปั๊มน้ำ
ปั๊มน้ำมีหน้าที่ส่งน้ำไปยังแผ่นทำความเย็น เพื่อให้เกิดกระบวนการระเหย การทำงานของปั๊มที่ผิดปกติอาจทำให้เครื่องเย็นน้อยลง หรือ ไม่เย็นเลย
วิธีการดูแลปั๊มน้ำมีดังนี้ :
- ตรวจสอบการทำงานของปั๊มน้ำทุกสัปดาห์ ว่ายังสามารถปั๊มน้ำได้ปกติหรือไม่
- ล้างทำความสะอาดหัวพ่นน้ำ และท่อส่งน้ำเพื่อป้องกันการอุดตัน
- หากพบว่าปั๊มน้ำมีเสียงดังผิดปกติ ควรตรวจสอบว่าไม่มีเศษสิ่งสกปรกติดค้างอยู่ในตัวปั๊ม
4. ทำความสะอาดตัวเครื่อง และแผ่นกรองอากาศ
ฝุ่นละออง และสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ในตัวเครื่อง และแผ่นกรองอากาศ อาจทำให้การไหลเวียนของอากาศลดลง และทำให้เครื่องทำงานหนักขึ้น
- ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดตัวเครื่องภายนอก
- หากเครื่องมีแผ่นกรองฝุ่น ควรนำออกมาล้างน้ำทุก 2 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการให้เครื่องสัมผัสกับแหล่งความร้อนโดยตรง เพื่อป้องกันวัสดุเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
5. การใช้งานที่ถูกต้อง เพื่อยืดอายุการใช้งาน
นอกจากการดูแลรักษาแล้ว วิธีการใช้งานที่ถูกต้อง จะช่วยให้ระบบอีแวปทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ดังนี้ :
- เติมน้ำสะอาดเสมอ หลีกเลี่ยงการใช้น้ำที่มีตะกอน หรือ สิ่งปนเปื้อน เพราะอาจทำให้เกิดการอุดตันในระบบ
- อย่าใช้ในพื้นที่อับอากาศ ควรเปิดหน้าต่าง หรือ ช่องระบายอากาศ เพื่อให้ลมสามารถไหลเวียนได้ดีขึ้น
- ปิดเครื่องเมื่อไม่ใช้งาน เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรค และช่วยประหยัดพลังงาน
- ตรวจสอบสายไฟ และพัดลมหมุนเวียน อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันความเสียหายจากไฟฟ้า หรือ การใช้งานหนักเกินไป