ประวัติความเป็นมาและพัฒนาการที่สำคัญ
ประวัติความเป็นมา บริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัทก่อตั้งขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการเครื่องทำความเย็น ในสถานที่ที่ไม่สามารถติดตั้งเครื่องปรับอากาศได้ โดยในช่วงแรกบริษัทมุ่งเน้นไปที่การผลิตและจำหน่ายพัดลมไอน้ำ ซึ่งเป็น รายแรก ในประเทศไทยที่มีการวิจัยและพัฒนาพัดลมไอน้ำ
ก่อตั้ง
ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2545 โดย นายนพชัย วีระมาน และกลุ่มเพื่อน มุ่งมั่นตอบสนองความต้องการเครื่องทำความเย็นในสถานที่ที่ไม่สามารถติดตั้งเครื่องปรับอากาศได้
รายแรก
เป็นผู้ริเริ่มผลิตและจำหน่ายพัดลมไอน้ำ รายแรก ในประเทศไทย เพื่อตอบสนองความต้องการในการคลายร้อน ลดอุณหภูมิของอากาศ ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ขยายขอบเขตธุรกิจไปสู่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบทำความเย็น เช่น เครื่องปรับอากาศ พัดลมอุตสาหกรรม และระบบปรับอากาศสำหรับอาคารต่างๆ
ประวัติความเป็นมา ความเชี่ยวชาญที่สั่งสม
- วันที่ 7 มกราคม 2565 จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้วเป็น 230,500,000 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 922,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท
- วันที่ 17 มกราคม 2565 จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้วเป็น 244,380,000 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 977,520,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท
- วันที่ 19 มกราคม 2565 จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้วเป็น 290,149,317 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 1,160,597,268 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.25 บาท โดยบริษัทได้เข้าทำรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ และรายการที่เกี่ยวโยงกัน ได้แก่ การรับโอนกิจการทั้งหมดของ บริษัท สาทรสินทรัพย์ จำกัด และการเข้าซื้อหุ้นร้อยละ 99.99 ของ บริษัท แคปปิตอล ลิ้งค์ อุดรธานี จำกัด โดยชำระค่าตอบแทนเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ทำให้บริษัทเข้าถือหุ้นในบริษัทย่อยเพิ่มขึ้นจำนวน 4 บริษัท ได้แก่ บริษัท แคปปิตอล ลิ้งค์ โฮลดิ้ง จำกัด บริษัท แคปปิตอล ลิ้งค์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด บริษัท แคปปิตอล ลิ้งค์ ลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) บริษัท แคปปิตอล ลิ้งค์ อุดรธานี จำกัด และกิจการร่วมค้า จำนวน 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท เอช-ดู (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท บริหารสินทรัพย์ เอช-ดู จำกัด
- วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้วเป็น 300,000,000 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 1,200,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท
ประวัติความเป็นมา ความเชี่ยวชาญที่สั่งสม
- วันที่ 16 มิถุนายน 2564 บริษัทได้ดำเนินการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้วเป็น 180,000,000 บาท โดยแบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 720,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท การเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้วดังกล่าวเป็นผลมาจากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering)
- วันที่ 27 สิงหาคม 2564 บริษัทได้ดำเนินการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้วเป็น 198,000,000 บาท โดยแบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ 792,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท
- วันที่ 21 ธันวาคม 2564 บริษัทได้ดำเนินการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้วเป็น 214,250,000 บาท โดยแบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 857,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท การเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้วดังกล่าวเป็นผลมาจากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement)
ประวัติความเป็นมาความเชี่ยวชาญที่สั่งสม
- บริษัทได้ออกผลิตภัณฑ์ Health & Hygiene ทั้งเครื่องฟอกอากาศ เครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศ เครื่องอบโอโซนอเนกประสงค์ และเครื่องผลิตน้ำยาฆ่าเชื้อโรค
ประวัติความเป็นมาความเชี่ยวชาญที่สั่งสม
- บริษัทได้สนับสนุนติดตั้งหอฟอกอากาศเพื่อกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก มอบให้กับสำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบมลพิษทางอากาศให้กับประชาชนทั่วไป
ประวัติความเป็นมาความเชี่ยวชาญที่สั่งสม
- บริษัทร่วมก่อตั้งบริษัท อินโนว์ กรีน โซลูชั่น จำกัด (“Ingreen”) กับบุคลที่ไม่เกี่ยวข้องกัน ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 1,000,000 บาท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 49.99 เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์โอโซน
ประวัติความเป็นมาความเชี่ยวชาญที่สั่งสม
- บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท อินโนว์ กรีน โซลูชั่น จำกัด (บริษัทย่อย) จากทุนจดทะเบียนเดิม 1,000,000 บาทเป็นทุนจดทะเบียน 30,000,000 บาท
ประวัติความเป็นมาความเชี่ยวชาญที่สั่งสม
- 23 กันยายน 2558 บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) และ เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ ด้วยรหัสหลักทรัพย์ KOOL และบริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนชำระแล้วเป็น 120,000,000 บาท
ประวัติความเป็นมาความเชี่ยวชาญที่สั่งสม
- แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด
- เปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้จากหุ้นละ 10 บาทเป็นหุ้นละ 0.25 บาท
- เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 120,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 480,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท โดยมีรายละเอียดการจัดสรรดังนี้
- หุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 80,000,000 หุ้น จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น
- หุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 120,000,000 หุ้น จัดสรรให้แก่ประชาชนทั่วไป
ประวัติความเป็นมาความเชี่ยวชาญที่สั่งสม
- บริษัทร่วมก่อตั้งบริษัท อินโนว์ กรีน โซลูชั่น จำกัด (“Ingreen”) กับบุคลที่ไม่เกี่ยวข้องกัน ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 1,000,000 บาท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 49.99 เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์โอโซน
ประวัติความเป็นมาความเชี่ยวชาญที่สั่งสม
- บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 70,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 7,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท โดยเสนอขายหุ้นและจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม กรรมการ ผู้บริหารและพนักงานบางส่วนที่ราคาตามมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท บริษัทได้ซื้อหุ้น Ingreen เพิ่มจากผู้ถือหุ้นเดิมที่ไม่ใช่บุคคลที่เกี่ยวข้องกันจำนวน 5,0000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท ที่ราคาตามมูลค่าทางบัญชีของ Ingreen ณ ขณะนั้น ส่งผลให้บริษัทสัดส่วนการถือหุ้นใน Ingreen ร้อยละ 99.98 และทำให้ Ingreen มีสถานะเป็นบริษัทย่อยของบริษัท
ประวัติความเป็นมาความเชี่ยวชาญที่สั่งสม
บริษัทและผู้ถือหุ้นของบริษัท 3 รายลงนามในสัญญาร่วมลงทุนและสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้นกับ K-SME นอกจากนี้ บริษัทได้เริ่มทดลองนำเข้าพัดลมไอเย็นซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่มาจำหน่ายภายในประเทศ
ประวัติความเป็นมาความเชี่ยวชาญที่สั่งสม
- บริษัทได้รับรางวัล PM Award ประจำปี 2551 (Prime Minister’s Export Award 2008) ประเภทใช้ตราสินค้าตัวเอง (Thai-Owned Brand)
ประวัติความเป็นมาความเชี่ยวชาญที่สั่งสม
- บริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (“บริษัท”) เริ่มจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2545 โดยนายนพชัย วีระมาน และกลุ่มเพื่อน ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 2,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 200,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท เพื่อประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายพัดลมไอน้ำ โดยบริษัทเป็นรายแรกที่มีการวิจัยและพัฒนาพัดลมไอน้ำ เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาอากาศร้อนในสถานที่ที่ไม่สามารถติดตั้งเครื่องปรับอากาศได้