เลือกเครื่องฟอกอากาศให้บ้านที่มีสัตว์เลี้ยง ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง?
วิธีเลือกเครื่องฟอกอากาศสำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง กำจัดขน กลิ่น และสารก่อภูมิแพ้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่ออากาศสะอาดสดชื่นตลอดวัน!
บ้านที่มีสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัขและแมว มักเผชิญกับปัญหาขนสัตว์ กลิ่น และสารก่อภูมิแพ้ที่ลอยอยู่ในอากาศ การใช้เครื่องฟอกอากาศเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในบ้าน แต่การเลือกเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสมสำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงนั้นต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย ทั้งระบบกรองอากาศ ความสามารถในการกำจัดขนสัตว์ กลิ่น และสารก่อภูมิแพ้ รวมถึงคุณสมบัติที่ช่วยให้การใช้งานสะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ปัญหาคุณภาพอากาศในบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง
สัตว์เลี้ยงสามารถสร้างปัญหาหลายอย่างที่ส่งผลต่อคุณภาพอากาศภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็น
- ขนสัตว์ ที่ลอยอยู่ในอากาศและเกาะติดตามเฟอร์นิเจอร์
- สะเก็ดผิวหนังสัตว์ (Dander) ซึ่งเป็นสารก่อภูมิแพ้ที่ทำให้บางคนมีอาการแพ้
- กลิ่นไม่พึงประสงค์ เช่น กลิ่นปัสสาวะ กลิ่นตัวสัตว์ หรือกลิ่นจากอุปกรณ์ของสัตว์เลี้ยง
- ฝุ่นละอองและเชื้อโรค ที่สัตว์เลี้ยงอาจนำเข้ามาภายในบ้าน
วิธีเลือกเครื่องฟอกอากาศที่ดีที่สุดสำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง
- เลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรอง HEPA
- แผ่นกรอง HEPA (High-Efficiency Particulate Air) สามารถดักจับฝุ่น ขนสัตว์ และสารก่อภูมิแพ้ได้ถึง 99.97% ของอนุภาคขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอน
- เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้และต้องการกำจัดสารก่อภูมิแพ้จากสัตว์เลี้ยง
- มองหาเครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรองคาร์บอนสำหรับกำจัดกลิ่น
- แผ่นกรองคาร์บอนช่วยดูดซับกลิ่นเหม็นจากสัตว์เลี้ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น กลิ่นปัสสาวะหรือกลิ่นตัวสัตว์
- หากต้องการกำจัดกลิ่นให้ได้ผลดี ควรเลือกเครื่องที่มีแผ่นกรองคาร์บอนแบบหนา
- ตรวจสอบค่า CADR (Clean Air Delivery Rate)
- ค่า CADR บ่งบอกถึงความสามารถในการกรองอากาศของเครื่องฟอกอากาศ ยิ่งค่าสูง ยิ่งสามารถฟอกอากาศได้เร็วขึ้น
- สำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง แนะนำให้เลือก CADR ที่สูงกว่าขนาดห้องเพื่อให้การกรองอากาศมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- เลือกรุ่นที่มีระบบไอออไนเซอร์หรือเทคโนโลยีฆ่าเชื้อโรค
- บางเครื่องมีระบบปล่อยไอออนลบที่ช่วยจับอนุภาคฝุ่นขนาดเล็ก
- บางรุ่นมีเทคโนโลยี UV-C หรือ PlasmaWave ที่สามารถช่วยกำจัดเชื้อโรคและแบคทีเรียในอากาศ
- เลือกเครื่องที่มีฟังก์ชันพิเศษสำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง
- เครื่องฟอกอากาศบางรุ่นออกแบบมาเพื่อบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ มีโหมดกรองขนสัตว์และกำจัดสารก่อภูมิแพ้
- บางรุ่นมีเซ็นเซอร์ตรวจจับคุณภาพอากาศและปรับระดับการฟอกอากาศอัตโนมัติ
เทคนิคเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องฟอกอากาศในบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง
- ตั้งเครื่องฟอกอากาศในจุดที่เหมาะสม
- ควรตั้งใกล้กับบริเวณที่สัตว์เลี้ยงอยู่เป็นประจำ เช่น ห้องนั่งเล่นหรือห้องนอน
- หลีกเลี่ยงการวางในมุมอับที่อากาศถ่ายเทไม่ดี
- เปิดเครื่องฟอกอากาศตลอดทั้งวัน
- การเปิดใช้งานตลอดเวลาจะช่วยกรองอากาศได้ต่อเนื่อง ลดการสะสมของขนสัตว์และฝุ่นละออง
- เปลี่ยนไส้กรองเป็นประจำ
- บ้านที่มีสัตว์เลี้ยงมักมีฝุ่นและขนสัตว์สะสมเร็วกว่า จึงควรเปลี่ยนไส้กรอง HEPA และแผ่นกรองคาร์บอนตามระยะเวลาที่แนะนำโดยผู้ผลิต
- ทำความสะอาดบ้านควบคู่กับการใช้เครื่องฟอกอากาศ
- หมั่นดูดฝุ่นเป็นประจำ โดยใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีแผ่นกรอง HEPA เพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายของขนสัตว์
- ใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดพื้นและเฟอร์นิเจอร์เพื่อลดฝุ่นสะสม
- อาบน้ำและแปรงขนสัตว์เลี้ยงเป็นประจำ
- การดูแลสัตว์เลี้ยงให้สะอาดช่วยลดปริมาณขนและสะเก็ดผิวหนังในอากาศ
- ใช้แปรงขนสัตว์แบบพิเศษที่สามารถลดการหลุดร่วงของขนได้
บ้านที่มีสัตว์เลี้ยงจำเป็นต้องเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีคุณสมบัติพิเศษเพื่อช่วยกำจัดขนสัตว์ กลิ่น และสารก่อภูมิแพ้ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด การเลือกเครื่องที่มีแผ่นกรอง HEPA และคาร์บอน รวมถึงฟังก์ชันพิเศษที่ช่วยลดสารก่อภูมิแพ้ จะช่วยให้อากาศภายในบ้านสะอาดและสดชื่นอยู่เสมอ นอกจากนี้ การทำความสะอาดบ้านและสัตว์เลี้ยงเป็นประจำจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องฟอกอากาศและช่วยให้สมาชิกในบ้านสามารถสูดอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างปลอดภัยและสบายใจทุกวัน
MASTERKOOL (มาสเตอร์คูล) คือผู้เชี่ยวชาญในการแก้ไขปัญหาอากาศร้อนและปรับปรุงคุณภาพอากาศแบบครบวงจร ที่พร้อมนำเสนอโซลูชันเกี่ยวกับระบบบำบัดกลิ่น ระบบทำความเย็น และระบบระบายอากาศที่หลากหลาย อาทิ พัดลมอุตสาหกรรม พัดลมตั้งพื้น พัดลมโรงงาน พัดลมฟาร์ม พัดลมแขวนผนังที่มีประสิทธิภาพ ระบบบำบัดอากาศ เครื่องฟอกอากาศ พัดลมไอเย็น เครื่องทำน้ำเย็น ตู้กดน้ำเย็น รวมถึงดูแลและให้บริการระบบอีแวป (Evaporative Cooling System) ระบบทำความเย็นในโรงงานอีกด้วย เพื่อการช่วยตอบโจทย์กับทุกความต้องการในการใช้งานอย่างครอบคลุม
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าและบริการของ Masterkool ได้ที่
Tel : 02-953-8800, 092-260-5140
Email : info@masterkool.co.th